ป่าช้า (ป่าฝังศพ): สถานที่ฝังศพหมู่ในอีสาน
ป่าช้า อาจจะแปลได้ว่า "ป่าฝังศพ" เป็นป่าที่ใช้ฝังศพก่อนที่การเผาศพในเมรุของวัดจะกลายเป็นเรื่องปกติ ตามที่ภรรยาของผมเล่า เมื่อประมาณ 50 ปีที่แล้ว ตอนเธอยังเป็นเด็ก ผู้คนในหมู่บ้านนี้ยังนำศพไปฝังในป่าช้า เป็นการฝังศพรวมโดยไม่มีป้ายหลุมศพที่บ่งบอกถึงผู้ตาย หลังจากฝังแล้วก็ไม่มีใครมาเยี่ยมอีกเลย ซึ่งอาจจะฟังดูไม่น่าเชื่อในความคิดของคนญี่ปุ่น แต่สำหรับคนไทยแท้ๆ ซึ่งไม่มีความเชื่อที่หนักแน่นในบรรพบุรุษ ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
สำหรับงานศพในประเทศไทยนั้น หลายคนมักพูดถึงการลอยอังคารที่นำอัฐิไปลอยในทะเลหรือแม่น้ำ แต่ในหมู่บ้านอีสานที่เป็นบ้านเกิดของภรรยาผม ไม่มีการทำเช่นนั้น แค่นำอัฐิใส่โถแล้วเก็บไว้ที่วัดหรือที่บ้านเท่านั้น แต่วิธีนี้ก็น่าจะเพิ่งเป็นเรื่องที่ทำกันไม่นานมานี้ (เนื่องจากในป่าช้าเคยใช้เป็นที่เผาศพด้วย การนำอัฐิไปฝากไว้ที่วัดอาจจะเป็นสิ่งที่ทำกันมานานแล้ว)
ป่าช้านี้อยู่ใกล้กับถนนใหญ่ทันทีที่ออกจากหมู่บ้าน ผมเคยได้ยินคำว่าป่าช้ามาก่อน แต่ไม่คิดว่าที่ฝังศพจะอยู่ใกล้ขนาดนี้ มันอยู่ติดกับที่นาของภรรยา ใกล้กับบ่อน้ำที่เรามักปล่อยน้ำออกเพื่อจับปลา ผมแต่งงานมาเกือบ 30 ปีแล้ว เพิ่งรู้ในครั้งนี้เอง ผมถามขึ้นมาโดยบังเอิญ และรู้เรื่องนี้ เมื่อผมตกใจและถามว่า "ทำไมไม่เคยบอกมาก่อน" เธอตอบว่า "ก็ไม่เคยถาม" ซึ่งเมื่อคิดดูแล้ว ก็ไม่เคยเห็นใครเข้าไปในป่านี้เลย
การนำอัฐิไปลอยในแม่น้ำหรือทะเล และการฝังศพในป่าโดยไม่กลับมาอีกนั้น ก็มีความคล้ายคลึงกันในแง่ที่ว่า "ไม่ต้องกังวลเรื่องต่อไป" แต่เมื่อที่ฝังศพอยู่ใกล้กับหมู่บ้านขนาดนี้ มันก็อาจจะเป็นปัจจัยที่ทำให้คนอีสานที่เชื่อในผีมาก เกิดเรื่องเล่าหรือ "ตำนานหมู่บ้าน" ขึ้นมาได้ นอกจากนั้น สิ่งที่ผมรู้สึกแปลกอีกอย่างก็คือ รอบป่าช้านี้ไม่มีศาลหรือที่ตั้งของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านเชื่อว่าจะป้องกันสิ่งเลวร้ายได้ เรื่องนี้ผมคงต้องถามผู้เฒ่าผู้แก่ในหมู่บ้านต่อไป
ต่อจากนี้ไป ถ้าผมเจอป่าเล็กๆ ที่โผล่ขึ้นมากลางทุ่งนา ผมจะคิดว่ามันคือป่าช้า หรือ "ป่าฝังศพ" มันไม่ใช่ป่ายูคาลิปตัสที่ใช้ทำการค้า แต่เป็นป่าที่ถูกปล่อยทิ้งไว้และไม่มีใครเข้าไปยุ่ง เป็นป่าที่ไม่สามารถทำเป็นนาได้เพราะมันเป็นที่ดินของหมู่บ้าน และเป็นป่าที่ชาวบ้านกลัวจะทำให้วิญญาณโกรธเคือง ป่านี้จึงถูกทิ้งไว้ในสภาพแบบนี้ ป่านี้อาจจะเรียกได้ว่าเป็นประตูสู่โลกอีกใบที่คนในหมู่บ้านที่ให้ความเคารพนับถือในศาสนาพุทธและวัด ลืมไปแล้วก็เป็นได้
จบ